




ยอดขายรถยนต์ในไทยที่ผ่านมา
- ยอดขายเดือนกรกฏาคม 2565 ทั้งหมด 64,033คัน
- ยอดขายเดือนมิถุนายน 2565 ทั้งหมด 67,952 คัน
- ยอดขายเดือนพฤษภาคม 2565 ทั้งหมด 64,735 คัน
- ยอดขายเดือนเมษายน 2565 ทั้งหมด 63,427 คัน
- ยอดขายเดือนมีนาคม 2565 ทั้งหมด 87,245 คัน
- ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งหมด 74,489คัน
- ยอดขายเดือนมกราคม 2565 ทั้งหมด 69,455 คัน
- ยอดขายเดือนธันวาคม 2564 ทั้งหมด 91,010 คัน
- ยอดขายเดือนพฤศจิกายน 2564 ทั้งหมด 71,716 คัน
- ยอดขายเดือนตุลาคม 2564 ทั้งหมด 64,462 คัน
- ยอดขายเดือนกันยายน 2564 ทั้งหมด 64,122 คัน
- ยอดขายเดือนสิงหาคม 2564 ทั้งหมด 42,176 คัน
- ยอดขายเดือนกรกฏาคม 2564 ทั้งหมด 52,442 คัน
- ยอดขายเดือนมิถุนายน 2564 ทั้งหมด 64,974 คัน
- ยอดขายเดือนพฤษภาคม 2564 ทั้งหมด 55,948 คัน
- ยอดขายเดือนเมษายน 2564 ทั้งหมด 58,132 คัน
- ยอดขายเดือนมีนาคม 2564 ทั้งหมด 79,969 คัน
- ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทั้งหมด 58,960 คัน คัน
- ยอดขายเดือนมกราคม 2564ทั้งหมด 55,202 คัน
- ยอดขายเดือนธันวาคม 2563 ทั้งหมด 104,089 คัน
- ยอดขายเดือนพฤศจิกายน 2563 ทั้งหมด 79,177 คัน
- ยอดขายเดือนตุลาคม 2563 ทั้งหมด 74,115 คัน
- ยอดขายเดือนกันยายน 2563 ทั้งหมด 77,907 คัน
- ยอดขายเดือนสิงหาคม 2563 ทั้งหมด 68,883 คัน
- ยอดขายเดือนกรกฏาคม 2563 ทั้งหมด 59,335 คัน
- ยอดขายเดือนกรกฏาคม 2563 ทั้งหมด 59,335 คัน
- ยอดขายเดือนมิถุนายน 2563 ทั้งหมด 58,013 คัน
- ยอดขายเดือนพฤษภาคม 2563 ทั้งหมด 40,418 คัน
- ยอดขายเดือนเมษายน 2563 ทั้งหมด 30,109 คัน
- ยอดขายเดือนมีนาคม 2563 ทั้งหมด 60,105 คัน
- ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ทั้งหมด 68,271 คัน
- ยอดขายเดือนมกราคม 2563 ทั้งหมด 71,688 คัน
- ยอดขายเดือนธันวาคม 2562 ทั้งหมด 89,285 คัน
- ยอดขายเดือนพฤศจิกายน 2562 ทั้งหมด 79,299 คัน
- ยอดขายเดือนตุลาคม 2562 ทั้งหมด 77,122 คัน
- ยอดขายเดือนกันยายน 2562 ทั้งหมด 76,195 คัน
ยอดขาย | ยอดขาย |
มกราคม 2563 | มกราคม 2564 |
71,688 คัน | 55,202 คัน |
กุมภาพันธ์ 2563 | กุมภาพันธ์ 2564 |
68,271 คัน | 58,960 คัน |
มีนาคม 2563 | มีนาคม 2564 |
60,105 คัน | 79,969 คัน |
เมษายน 2563 | เมษายน 2564 |
30,109 คัน | 58,132 คัน |
พฤษภาคม 2563 | พฤษภาคม 2564 |
40,418 คัน | 55,948 คัน |
มิถุนายน 2563 | มิถุนายน 2564 |
58,049 คัน | 64,974 คัน |
กรกฏาคม 2563 | กรกฏาคม 2564 |
59,335 คัน | 52,442 คัน |
สิงหาคม 2563 | สิงหาคม 2564 |
68,883 คัน | 42,176 คัน |
กันยายน 2563 | กันยายน 2564 |
77,907 คัน | 64,122 คัน |
ตุลาคม 2563 | ตุลาคม 2564 |
74,115 คัน | 64,462 คัน |
พฤศจิกายน 2563 | พฤศจิกายน 2564 |
79,177 คัน | 71,716 คัน |
ธันวาคม 2563 | ธันวาคม 2564 |
104,089 คัน | 91,010 คัน |
มกราคม 2564 | มกราคม 2565 |
55,202 คัน | 69,455 คัน |
กุมภาพันธ์ 2564 | กุมภาพันธ์ 2565 |
58,960 คัน | 74,489 คัน |
มีนาคม 2564 | มีนาคม 2565 |
79,969 คัน | 87,245 คัน |
เมษายน 2564 | เมษายน 2565 |
58,132 คัน | 63,427 คัน |
พฤษภาคม 2564 | พฤษภาคม 2565 |
55,948 คัน | 64,735 คัน |
มิถุนายน 2564 | มิถุนายน 2565 |
64,974 คัน | 67,952 คัน |
กรกฏาคม 2564 | กรกฏาคม 2565 |
52,442 คัน | 64,033 คัน |
ยอดขายเดือน กรกฏาคม 2565 รวม 64,033 คัน
- TOYOTA – 20,250คัน
- ISUZU – 16,282 คัน
- HONDA – 7,256 คัน
- Mitsubishi – 3,951คัน
- MAZDA – 2,408 คัน
- NISSAN – 2,340 คัน
- MG – 1,459 คัน
- SUZUKI – 1,236 คัน
- GWM – 1,150 คัน
- Hino – 1,101 คัน
- HYUNDAI – 398 คัน
- Subaru – 113 คัน
- KIA – 101 คัน
- CP-FOTON – 42 คัน
- Lexus – 27 คัน
- SsangYong – 8 คัน
- บางรุ่นที่ยอดขายไม่มี ไม่ใช่ว่าขายไม่ได้เพียงแต่ยังไม่มีข้อมูล ในเดือนนั้น
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2565 มีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น 64,033 คัน เพิ่มขึ้น 22.1% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 19,194 คัน เพิ่มขึ้น 15% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 44,839 คัน เพิ่มขึ้น 25.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 34,054 คัน เพิ่มขึ้น 22.4%
ประเด็นสำคัญ
นายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า “ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคมมีปริมาณการขาย 64,033 คัน เพิ่มขึ้น 15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตเช่นเดียวกันที่ 25.4% แม้จะอยู่ในช่วงกลางฤดูฝนซึ่งปกติเป็นช่วง Low Season ของทุกปี แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ หลังหยุดชะงักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สังเกตุได้จากสภาพการจราจรบนท้องถนนที่กลับมาติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน (Rush hour) ซึ่งประชาชนต่างเร่งเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน และกลับมาติดขัดอีกครั้งในช่วงเย็นหลังเลิกงาน และถึงแม้สถานการณ์ราคาน้ำมันยังไม่ปรับลดลงจนประชาชนพอใจ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้รถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากมีความจำเป็นในการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย กว่าการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง”
นายสุรศักดิ์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคมว่า “มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากการแนะนำรถยนต์รุ่นสำคัญเข้าสู่ตลาดของค่ายรถยนต์ ประกอบกับแรงกระตุ้นของแคมเปญการตลาดในช่วงงาน Bangkok International Grand Motor Show 2022 ในระหว่างวันที่ 19 – 28 สิงหาคม ศกนี้ ซึ่งนอกจากกระตุ้นยอดขายรถยนต์ภายในงาน ยังขยายข้อเสนอพิเศษไปยังโชว์รูมผู้แทนจำหน่าย ทั่วประเทศอีกด้วย นับเป็นโอกาสดีที่ทำให้ประชาชนสามารถมีรถยนต์ใช้ได้ง่ายขึ้น และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เจริญเติบโตผ่านเครือข่ายธุรกิจรถยนต์ได้อีกทางหนึ่ง”
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2565
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,033 คัน เพิ่มขึ้น 22.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 20,277 คัน เพิ่มขึ้น 19.0% ส่วนแบ่งตลาด 31.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 16,282 คัน เพิ่มขึ้น 19.0% ส่วนแบ่งตลาด 25.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,256 คัน เพิ่มขึ้น 4.3% ส่วนแบ่งตลาด 11.3%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,194 คัน เพิ่มขึ้น 15%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,096 คัน เพิ่มขึ้น 14.1% ส่วนแบ่งตลาด 26.5%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,635 คัน ลดลง 23.6% ส่วนแบ่งตลาด 24.1%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,788 คัน เพิ่มขึ้น 48.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 44,839 คัน เพิ่มขึ้น 25.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 16,282 คัน เพิ่มขึ้น 19.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 15,181 คัน เพิ่มขึ้น 20.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,609 คัน เพิ่มขึ้น 70.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 34,054 คัน เพิ่มขึ้น 22.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 14,832 คัน เพิ่มขึ้น 19.6% ส่วนแบ่งตลาด 43.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,659 คัน เพิ่มขึ้น 19.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,609 คัน เพิ่มขึ้น 70.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,240 คัน
อีซูซุ 1,567 คัน – โตโยต้า 1,321 คัน – ฟอร์ด 700 คัน – มิตซูบิชิ 560 คัน – นิสสัน 92 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,814 คัน เพิ่มขึ้น 18.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,265 คัน เพิ่มขึ้น 15.8% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,338 คัน เพิ่มขึ้น 19.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,909 คัน เพิ่มขึ้น 53.8% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 491,329 คัน เพิ่มขึ้น 15.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 162,309 คัน เพิ่มขึ้น 20.9% ส่วนแบ่งตลาด 33.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 126,171 คัน เพิ่มขึ้น 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 25.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 47,417 คัน ลดลง 4.5% ส่วนแบ่งตลาด 9.7%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 155,087 คัน เพิ่มขึ้น 13.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 43,990 คัน เพิ่มขึ้น 28.7% ส่วนแบ่งตลาด 28.4%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 34,209 คัน ลดลง 19.8% ส่วนแบ่งตลาด 22.1%
อันดับที่ 3 มาสด้า 13,843 คัน เพิ่มขึ้น 13.7% ส่วนแบ่งตลาด 8.9%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 336,242 คัน เพิ่มขึ้น 16.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 126,171 คัน เพิ่มขึ้น 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 118,319 คัน เพิ่มขึ้น 18.3% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 18,510 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนแบ่งตลาด 5.5%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 261,896 คัน เพิ่มขึ้น 16.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 116,271 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 101,891 คัน เพิ่มขึ้น 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 18,510 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 33,826 คัน
โตโยต้า 14,787 คัน – อีซูซุ 10,662 คัน – มิตซูบิชิ 4,714 คัน – ฟอร์ด 2,946 คัน – นิสสัน 717 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 228,070 คัน เพิ่มขึ้น 17.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 105,609 คัน เพิ่มขึ้น 21.3% ส่วนแบ่งตลาด 46.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 87,104 คัน เพิ่มขึ้น 22.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 15,564 คัน ลดลง 0.6% ส่วนแบ่งตลาด 6.8%