ตามที่ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้มีกำหนดจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ NETA อย่างเป็นทางการ รวมทั้งเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% NETA V สู่ตลาดเมืองไทยในวันที่ 20 กรกฎาคม นี้ ทั้งนี้จากสถานการณ์ด้านการผลิตและสถานการณ์ด้านการขนส่ง ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถนำเข้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เข้ามาจำหน่ายและส่งมอบให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้ทันตามกำหนดดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนการจัดงานแถลงข่าวไปเป็นวันที่ 24 สิงหาคม 2565

บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ขออภัยสำหรับสถานการณ์ดังกล่าว และขอขอบคุณคนไทยที่ให้การต้อนรับแบรนด์ NETA รวมทั้งขอให้ทุกท่านมั่นใจว่า NETA มีความตั้งใจจริงในการเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และต้องการให้คนไทยได้รับประโยชน์สูงสุด ในระหว่างนี้ทุกท่านที่สนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ สามารถสัมผัสประสบการณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น NETA V ได้ที่ Neta Space บริเวณชั้นสองของห้างสรรพสินค้า Central พระรามสองซึ่งเปิดให้บริการแล้ว รวมถึงลานกิจกรรมชั้นหนึ่งของห้างสรรพสินค้า Central World ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นต้นไป รวมทั้งที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ตามแผนงานเดิมที่วางไว้

NETA V หลังจากเผยโฉมในงาน มอเตอร์โชว์ 2022 และ มีการจองในงาน ราคารถ 699,000 บาทได้ส่วนลด 120,000 บาท (จริงๆควรได้ส่วนลด 150,000 บาท เพราะแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่กว่า 30kWh ตามนโยบาลหนุนรถยนต์ EV ของรัฐฯ) ทำให้ราคาขาย 579,000 บาท ล่าสุดมีการเผยราคาของโชว์รูมประมาณการที่ 570,000 บาท

สำหรับราคาจะเปิดอย่างเป็นทางการในช่วง 20 กรกฏาคม 2022 ปัจจุบันเลื่อนเป็น 24 สิงหาคม 2022 เวลา 13.30 – 16.00 ณ CentraWorld Live ชั้น 8และ โควต้าในประเทศไทยไม่เกิน 3,000 คัน (ราคาประมาณ 579,000 บาท)

จองวันนี้ได้อะไรบ้าง

สิทธิพิเศษภาษีกรมสรรพสามิต
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อม พรบ. 1 ปี มูลค่า 22,000 บาท
ฟรี เครื่องชาร์จ NETA Wall box และ ค่าติดตั้ง มูล 48,000 บาท
ฟรี บัตรเครดิตค่าชาร์จไฟฟ้าแบบเร็ว ที่สถานีน้ำมัน ปตท. มูลค่า 7,000 บาท
รับประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
ฟรี ค่าบำรุงรักษารถยนต์ ตามระยะ ปกติเฉพาะ 10,000 กม.
ฟรี ชุดพรมปูพื้น
ฟรี กรอบป้ายทะเบียน
รับประกันมอเตอร์รถยนต์ และ แบตเตอรี่รถยนต์ 8 ปี หรือ 180,000 กม.

วันที่ 10 กรกฏาคม 2022 ประเทศจีน NETA V ได้ออกมาประกาศเพิ่มราคา เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ราคาที่เพิ่มระหว่าง 3,000 – 5,000 หยวน หรือประมาณ 16,000 – 26,700 บาท ทำให้ NETA V ในจีนมีราคาจำหน่ายปัจจุบัน 79,900 – 96,900 หยวน หรือประมาณ 427,000 – 518,000 บาท

ในเดือนเมษายน 2022 NETA V ประเทศจีน ได้ปรับราคาในจีน 8,000 – 10,000 หยวน หรือประมาณ 42,800 – 53,500 บาท ทำให้ NETA V มีราคาจำหน่าย 74,900 – 93,900 หยวน หรือประมาณ 401,000 – 506,000 บาท

Nezha V-series 2022 ได้รับการอัพเกรดรูปลักษณ์ด้วยสีเขียวลอเรล ระบบช่วยการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เซ็นเซอร์ความแม่นยำสูง 14 ตัว สามารถรับรู้สภาพภายนอกรอบทิสทางแบบเรียลไทม์ รองรับการกำหนดค่าขั้นสูงด้วยการช่วยเหลือพิเศษในการขับขี่ เทคโนโลยีเพื่อลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ และ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

Neta Auto Thailand ลงนามความร่วมมือกับ Arun+ ในการสร้าง EV Value Chain เพื่อการ ประกอบรถยนต์ไฟฟ้าเนต้า สถานีชาร์จไฟฟ้า รวมถึงงานบริการหลังการขายที่สถานีปตท. สำหรับกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่กำลังมาแรงในประเทศช่วงนี้ Neta Auto Thailand จึงได้นำรถยนต์ภายใต้แบรนด์เนต้า มาให้ชมก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางที่บูทนวัตกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Arun+

บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ปตท.ถือหุ้น 100% สำหรับดำเนินธุรกิจในด้าน EV Value Chain และบริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน พร้อมบริการ ให้เช่า หรือจัดจำหน่าย EV พวงมาลัยขวารุ่นแรกของแบรนด์ Neta V ผลิตโดย Hozon

Hozon Auto (จีน: 合州Auto; พินอิน: Hé zhòng qì chē) เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของจีน ผลิตโดย Zhejiang Hezhong New Energy Automobile Company
ก่อตั้งโดย Beijing Sinohytec และ Zhejiang Yangtze Delta Region Institute of Tsinghua University และตั้งอยู่ในเมืองเจียซิง
เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่จัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 110 ล้านบาท พร้อมตั้งดีลเลอร์ในไทยสำหรับการขายช่วงแรก

ในช่วงที่นำเข้ามาทำตลาดระหว่างปี 2565-2566 จากนั้นต้องผลิตชดเชยในประเทศปี 2567 เท่ากับการนำเข้า
BRG ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายเจ้าแรกของ NETA THAILAND บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด
ในส่วนการผลิต NETA ไม่มีโรงงานประกอบในไทย แต่จะใช้การจ้างในข้อตกลงกับทางกลุ่ม บริษัทอรุณพลัสในเครือ ปตท. สำหรับกำลังการผลิตยังไม่ระบุชัดเจน

Nezha V EV

Nezha V ยังคงรูปลักษณ์การออกแบบภายนอกที่เรียบง่าย ไฟหน้ามีรูปลักษณ์ลื่นไหล แต่ภายในโคมไฟยังใช้ไฟฮาโลเจน ติดตั้งฟังก์ชั่นไฟหน้าอัตโนมัติ กระจังหน้าแบบปิด ด้านข้างยังคงดีไซน์ Slip-back ไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอย 16 นิ้วยาง 185/55R16

ขนาดตัวถัง

ยาว 4070 มม.
กว้าง 1690 มม.
สูง 1540 มม.
ฐานล้อ 2420 มม.
ระยะต่ำสุดจากพื้น 130 มม.
ความจุสัมภาระท้าย 335 ลิตร
น้ำหนักตัวรถ 1,151 กก.

ภายในห้องโดยสารใช้หนังสังเคราะห์ เบาะนั่งคนขับ-ผู้โดยสารด้านหน้าปรับมือ 4 ทิศทาง พวงมาลัยหนังแท้ แผงหน้าปัด 12 นิ้ว โด่ดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาดใหญ่แนวตั้ง 14.6 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 พวงมาลัย 2 ก้าน ช่องแอร์แนวนอน หน้าจอควบคุมส่วนกลางรองรับ ระบบนำทางแบบเรียลไทม์ ระบบโต้ตอบด้วยเสียง ลำโพง 6 ตำแหน่ง กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบ One-Touch คันเกียร์ไฟฟ้า กระจกมองหลังกันแสงได้ กุญแจนิรภัย Immobilizer

ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 95 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 121 กม./ชม. แบตเตอรี่ลิเธียมความจุ 38.54kWh สามารถวิ่งได้ 380 กม./ชาร์จ NEDC

ระยะเวลาชาร์จปกติ AC 0-100 % ภายใน 8 ชั่วโมง
ระยะเวลาชาร์จเร็ว DC 30-80% ภายใน 30 นาที
ติดตั้งระบบจัดการอุณหภูมิคงที่ของแบตเตอรี่ HEPT 3.0 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพความทนทานในฤดูหนาว
พร้อมระบบชาร์จไฟภายนอกรถ V2L (Vehicle to Load) สามารถจ่ายไฟจากตัวรถได้ 3.3 kW
ระบบจัดการแบตเตอรี่ HEPT 3.0